Soft Gold และ Black Matte เทรนด์สีมาแรงที่ครองใจนักออกแบบปีนี้

Soft Gold และ Black Matte เทรนด์สีมาแรงที่ครองใจนักออกแบบปีนี้

ในโลกของ Interior Design รายละเอียดเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะเฉดสีของฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่องค์ประกอบเชิงความสวยงาม แต่ยังทำหน้าที่เสริมอารมณ์และบุคลิกของพื้นที่ได้อย่างเด่นชัด ปีนี้เทรนด์สีที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในงานออกแบบภายในคือ Soft Gold และ Black Matte สองเฉดสีนี้ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างละเมียดละไม ทั้งยังสะท้อนความร่วมสมัยที่เข้าถึงง่าย ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการออกแบบที่เน้นความสมดุลของความอบอุ่นและความเรียบง่ายมากขึ้นในปีนี้

บทความนี้ Pan Union จะพาคุณไปรู้จักจุดเด่นของสี Soft Gold และ Black Matte รวมถึงแนวทางการเลือกใช้ให้เหมาะกับสไตล์งานออกแบบ เพื่อให้นักออกแบบสามารถเลือกเฉดสีฮาร์ดแวร์ได้อย่างมืออาชีพ และส่งมอบงานดีไซน์ที่มีคุณภาพทั้งด้านรูปลักษณ์และประสบการณ์ใช้งานที่ดี

เฉดสี Soft Gold และ Black Matte คือสีแบบไหน

Soft Gold คืออะไร?

Soft Gold

Soft Gold คือเฉดสีทองที่มีโทนนุ่มนวลกว่าสีทองแบบดั้งเดิม โดยลดความฉูดฉาดและความแวววาวลงอย่างพอดี จึงให้ความรู้สึกหรูหราอย่างมีชั้นเชิงมากกว่าแค่การเน้นความโดดเด่น สีนี้มักมีอันเดอร์โทนแบบอบอุ่น คล้ายสีแชมเปญทองหรือทองพาสเทล อาจมีความขุ่นเล็กน้อยในพื้นผิว ช่วยให้ดูละมุนตาและไม่สะท้อนแสงจนรบกวนสายตา ซึ่งเหมาะกับงานดีไซน์ที่ต้องการความหรูหราแต่ไม่ต้องการให้รู้สึกโอเวอร์หรือดูจัดจ้านเกินไป

ในแง่ของการใช้งาน Soft Gold จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักออกแบบที่ต้องการแสดงความเรียบหรูในแบบร่วมสมัย โดยเฉพาะในงาน Interior ที่เน้นบรรยากาศสงบ อบอุ่น และดูแพงแบบไม่ตั้งใจ เมื่อจับคู่กับวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ หิน หรือพื้นผิวด้าน (Matte Surface) สี Soft Gold จะยิ่งขับความสมดุลและความกลมกลืนในพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งยังสามารถนำไปใช้ในสไตล์ Modern Luxury, Scandinavian หรือ Japandi ได้อย่างลงตัว

Black Matte คืออะไร?

Black Matte

Black Matte คือเฉดสีดำที่มีพื้นผิวแบบด้าน (Matte Finish) ซึ่งต่างจากสีดำแบบเงาที่มักสะท้อนแสงและดูจัดจ้านกว่า พื้นผิวด้านของ Black Matte ช่วยลดความสะท้อน ทำให้สีดูนิ่ง เรียบ และเท่ในแบบที่ไม่ต้องพยายาม สีดำในเฉดนี้จึงให้อารมณ์ของความสงบ ลุ่มลึก และเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการใช้งานในงานออกแบบที่ต้องการสร้างความรู้สึก Modern ที่แท้จริง

ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ดึงความสนใจมากเกินไปแต่แฝงไว้ด้วยความเฉียบคม Black Matte จึงได้รับความนิยมในกลุ่มฮาร์ดแวร์ เช่น มือจับประตู ลูกบิด หรืออุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ ที่ต้องการคุมโทนให้ดูสะอาด เรียบง่าย และมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับวัสดุอย่างไม้สีอ่อน หิน หรือโลหะโทนอ่อน ก็ยิ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของพื้นที่ให้ดูหรูหราแบบไม่ตะโกนและตอบโจทย์ความงามเชิงมินิมอลอย่างลงตัว

อ่านบทความน่าสนใจ: แต่งบ้านรับทรัพย์ ด้วยมือจับประตูสีทอง

ทำไมเฉดสี Soft Gold และ Black Matte ถึงครองใจนักออกแบบ

เฉดสี Soft Gold และ Black Matte ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักออกแบบ ไม่เพียงเพราะความสวยงามในเชิงรูปธรรม แต่ยังรวมถึงอิทธิพลทางความรู้สึกที่ทั้งสองสีสามารถสร้างขึ้นได้ในพื้นที่ สี Soft Gold ให้ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยน และหรูหราอย่างนุ่มนวล ขณะที่ Black Matte สื่อถึงความนิ่ง เท่ และมีพลังแบบเงียบ ๆ ทั้งสองสีนี้มียังมีความเป็นกลางที่ไม่ยึดติดกับโทนร้อนหรือเย็นมากนัก จึงสามารถใช้งานร่วมกับสไตล์การตกแต่งบ้านได้หลากหลายรูปแบบ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่ชัดเจนพอจะทำให้พื้นที่ดูมีรสนิยมและจุดยืนทางดีไซน์

เมื่อถูกนำมาใช้ในกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ทั้งสองสีสามารถยกระดับความรู้สึกของพื้นที่ได้อย่างเห็นผล ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความหรูหรากูแพงให้กับบานประตูธรรมดา หรือทำให้ห้องครัวที่เรียบง่ายดูโมเดิร์นและพรีเมียมขึ้น ความสามารถในการอยู่เบื้องหลังแต่ยังสร้างผลลัพธ์ที่ทรงพลังเช่นนี้เองที่ทำให้เฉดสี Soft Gold และ Black Matte กลายเป็นเฉดสีที่ครองใจนักออกแบบในปีนี้

อ่านบทความน่าสนใจ: เลือกสีบ้านตามฮวงจุ้ยปี 2025 เสริมดวงคนเกิดแต่ละวัน

ตัวอย่างงาน Interior ที่ใช้เหมาะกับเฉดสี Soft Gold และ Black Matte

เฉดสี Soft Gold และ Black Matte สามารถนำไปใช้ในงาน Interior Design ได้หลากหลายสไตล์ สามารถช่วยยกระดับงานออกแบบให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวได้อย่างน่าสนใจ

Modern Luxury

Modern Luxury interior

ในงานดีไซน์แบบ Modern Luxury โทนสี Soft Gold ช่วยเติมความหรูหราอย่างพอดี ไม่ดูเว่อร์หรือแข็งเกินไป โดยมักใช้ร่วมกับวัสดุผิวมันเงาเล็กน้อย เช่น กระจก หิน หรือแผ่นโลหะเคลือบเงา Soft Gold นิยมใช้กับองค์ประกอบอย่าง มือจับประตู หรือโคมไฟแชนเดอเลียร์ ที่เน้นความหรูแต่ไม่หนักแน่นเกินไป ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูสง่างามและนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน

Minimal / Modern

Minimal / Modern interior

สำหรับงานดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่ายและคมชัดอย่าง Minimal หรือ Modern เฉดสี Black Matte คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ด้วยพื้นผิวด้านที่ไม่สะท้อนแสง ทำให้ฮาร์ดแวร์เช่น มือจับเฟอร์นิเจอร์ กลอนประตู หรือบานพับ ดูนิ่ง เท่ และมีความเป็นระเบียบ โดยไม่แย่งซีนกับวัสดุหลักอื่น ๆ ในห้อง การแทรกโทนดำด้านเข้าไปในพื้นที่สีอ่อนจะช่วยเพิ่มมิติและความคมให้กับงานดีไซน์ได้อย่างชัดเจน

Japandi

Japandi interior

สไตล์ Japandi เป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายของญี่ปุ่นกับความอบอุ่นแบบสแกนดิเนเวียน สี Soft Gold ทำหน้าที่เชื่อมโยงความรู้สึกนุ่มและสมดุลเข้ากับวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้โอ๊คสีอ่อน, ผ้าเนื้อหยาบ, หรือผิวไม้ดิบ สามารถเลือกสี Soft Gold กับฮาร์ดแวร์เช่นมือจับประตูหรือบานพับ ก็จะช่วยให้บรรยากาศดูสงบ เรียบร้อย แต่ยังแฝงไว้ด้วยความละเอียดอ่อนของดีไซน์

Industrial Modern

Industrial Modern interior

งานดีไซน์แบบ Industrial Modern เหมาะอย่างยิ่งกับเฉด Black Matte สามารถเลือกใช้เฉดสีนี้ควบคู่กับวัสดุที่มีพื้นผิวดิบ เช่น ผนังปูนเปลือย, เหล็กดำ, หรือไม้รีเคลม การใช้ฮาร์ดแวร์สี Black Matte กับโครงเหล็กหรือบานประตูจะเน้นความรู้สึกของโครงสร้างและฟังก์ชันได้ชัดเจน พร้อมเสริมคาแรกเตอร์ให้พื้นที่ดูเข้มขรึมและเป็นตัวของตัวเองยิ่งขึ้น

อ่านบทความน่าสนใจ: 5 สไตล์มือจับประตูสวยๆ ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับบ้าน

เทคนิคเลือกฮาร์ดแวร์สี Soft Gold และ Black Matte ให้เข้ากับงานออกแบบ

การเลือกฮาร์ดแวร์ให้เหมาะกับโทนสีและสไตล์ของพื้นที่ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความสวยงาม แต่ยังเพิ่มความกลมกลืนให้กับภาพรวมของงานออกแบบ ต่อไปนี้คือหลักสำคัญที่ควรพิจารณา

1. Mood & Tone ของพื้นที่โดยรวม

การเลือกใช้ฮาร์ดแวร์สี Soft Gold หรือ Black Matte ควรพิจารณาจาก Mood & Tone ของพื้นที่โดยรวมเพื่อให้เข้ากันอย่างกลมกลืนกับองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น สีผนัง ชนิดของวัสดุปิดผิว หรือสีของวัสดุอื่น โดยเฉดสี Soft Gold จะเหมาะกับองค์ประกอบที่มีโทนสีอบอุ่นและหรูหรา เช่น วัสดุที่ทำจากไม้สีอ่อนหรือสีเอิร์ธโทน ส่วนสี Black Matte เหมาะกับองค์ประกอบที่เน้นความคมเข้มของเส้นสายและโทนสีเรียบเท่ 

2. เลือกพื้นผิวฮาร์ดแวร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

อีกหนึ่งจุดที่ต้องคำนึงถึงคือพื้นผิวของฮาร์ดแวร์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีอยู่ 2 แบบคือพื้นผิวสีพ่นปกติกับพื้นผิวเคลือบ PVD ที่จะมีความทนทานและคงความสวยงามได้นานกว่า การเคลือบ PVD ยังช่วยให้พื้นผิวทนต่อรอยขีดข่วนและการกัดกร่อนได้ดีกว่าสีพ่นทั่วไป เหมาะกับงานที่ต้องการความพรีเมียมทั้งด้านภาพลักษณ์และอายุการใช้งาน

3. การดูแลรักษา

สี Black Matte มีข้อควรระวังคือผิวแบบด้านอาจเกิดรอยนิ้วมือหรือรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่าสีมันเงา ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่ม ๆ เช็ดทำความสะอาด และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรง ๆ ส่วนสี Soft Gold โดยเฉพาะแบบที่เคลือบด้วย PVD จะไม่ลอกหรือหมองง่าย ต่างจากสีพ่นทั่วไปที่อาจหลุดล่อนเมื่อใช้งานไปนาน ๆ 

4. ความยั่งยืนในการใช้งาน

หากเลือกวัสดุและสีให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน พร้อมดูแลอย่างเหมาะสม ฮาร์ดแวร์สีเหล่านี้จะคงความสวยงามได้หลายปี

อ่านบทความน่าสนใจ: เทรนด์มือจับประตูสียอดนิยมปี 2025 ที่ไม่ควรพลาด

Soft Gold & Black Matte เฉดสีที่ยกระดับงานออกแบบให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น

Soft Gold และ Black Matte คือสองเฉดสีที่ให้ทั้งความหรูหราและความทันสมัยอย่างมีรสนิยม จุดเด่นของสี Soft Gold คือความละมุน หรูหราแบบไม่โอเวอร์ ขณะที่สี Black Matte ให้ความรู้สึกเรียบ เท่ คมชัด และโมเดิร์น การเลือกใช้สองสีนี้ควรพิจารณาร่วมกับ Mood & Tone ของงานออกแบบในภาพรวมเพื่อสร้างสมดุลและความกลมกลืนที่มีเอกลักษณ์ 

สี Soft Gold และ Black Matte ไม่ใช่แค่เทรนด์แต่เป็นสีที่ช่วยให้งานออกแบบดูแพง น่าดึงดูด และดูเป็นมืออาชีพ ใครทำงานสาย Interior Design อยู่ลองเปิดใจเลือกใช้สองเฉดสีนี้ แล้วคุณจะพบว่าเฉดสีเหล่านี้สามารถยกระดับงานออกแบบให้มีเสน่ห์ได้มากยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสี Soft Gold และ Black Matte

หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสี Soft Gold และ Black Matte หัวข้อนี้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบที่เข้าใจง่ายมาให้แล้ว

Q: สี Soft Gold กับทองทั่วไปต่างกันอย่างไร?

A: สี Soft Gold เป็นโทนสีทองที่มีความนุ่มนวลกว่า ไม่มีความเงาแวววาวหรือสีเหลืองจัดเหมือนทองแบบคลาสสิก จึงให้ความหรูหราแบบอบอุ่น ดูร่วมสมัยและไม่แก่ สามารถแมตช์กับงานดีไซน์ได้หลากหลายกว่า

Q: สี Black Matte ทำไมถึงเป็นรอยง่าย ต้องดูแลยังไง?

A: สี Black Matte มีพื้นผิวแบบด้าน ไม่มีการสะท้อนที่รบกวนสายตา เวลาสัมผัสจึงเห็นรอยนิ้วมือชัดกว่าผิวแบบมันเงา 

Q: สี Soft Gold จะลอกหรือซีดลงไหมเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ?

A: ถ้าเป็นฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการเคลือบผิวแบบ PVD สีจะติดทนนาน ทนต่อรอยขีดข่วน และไม่ลอกหรือซีดง่าย ต่างจากสีพ่นทั่วไปที่อาจเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานต่อเนื่อง

Q: ควรเลือกสีไหนให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง?

A: สี Soft Gold เหมาะกับงานที่ต้องการความหรูหรา อบอุ่น เช่น สไตล์ Modern Luxury หรือ Contemporary ส่วนสี Black Matte เข้ากับงานโมเดิร์น มินิมอล หรืออินดัสเทรียล ที่ต้องการลุคเรียบเท่

Q: บ้านแนว Minimal ใช้ Soft Gold ได้ไหม?

A: ได้ สามารถเลือกใช้กับวัสดุและโทนสีเรียบง่าย เช่น ไม้สีอ่อน ผนังสีขาว หรือพื้นผิวแบบด้าน จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นและมีมิติให้บ้านสไตล์ Minimal โดยไม่ดูฟุ้งเฟ้อ ทั้งยังทำให้รายละเอียดเล็ก ๆ ดูโดดเด่นขึ้นอีกด้วย

สนใจเลือกซื้อฮาร์ดแวร์ อาทิ มือจับประตู มือจับเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์กุญแจ รวมถึงอุปกรณ์ประตูคุณภาพสูง เช่น กลอนประตู กันชนประตู บานพับประตู คลิกดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.panunion.co.th

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Line: @panunion
Facebook: Pan Union มือจับประตู มือจับเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ฟิตติ้ง
Tel. 02-911-5600-4

Share this post

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า