เจาะลึกบานพับประตูมีกี่ประเภท ก่อนเลือกซื้อและติดตั้งอย่างมือโปร 

เจาะลึกบานพับประตูมีกี่ประเภท ก่อนเลือกซื้อและติดตั้งอย่างมือโปร 

การเลือกบานพับประตูถือเป็นหัวใจสำคัญของงานก่อสร้างและตกแต่งบ้าน เพราะบานพับประตูไม่เพียงแค่ทำหน้าที่เชื่อมประตูกับวงกบเพื่อให้เปิด ปิดได้อย่างราบรื่นเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความทนทานและความสวยงามของประตูโดยรวม หากเลือกบานพับผิดประเภท อาจเจอปัญหาเสียงดัง ประตูติดขัด หรือบานพับเสื่อมเร็ว ซึ่งสร้างความไม่สะดวกและต้องเสียค่าใช้จ่ายซ่อมแซมเพิ่ม

บทความนี้ Panunion จะพาทุกคนไปรู้จักประเภทบานพับประตูยอดนิยม พร้อมวิธีเลือกและติดตั้งให้เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าประตูบ้านจะใช้งานได้ดีและสวยงามในระยะยาว

ประเภทบานพับประตูที่ควรรู้

บานพับประตูเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้ประตูเปิด–ปิดได้อย่างราบรื่น นอกจากจะมีหน้าที่ทางกลไกแล้ว บานพับยังมีผลต่อความสวยงาม ความปลอดภัย และความทนทานของประตูด้วย โดยสามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้

1. บานพับซ่อน (Invisible Hinge)

บานพับซ่อนถูกออกแบบให้ซ่อนตัวอยู่ภายในบานประตูและวงกบ ทำให้มองไม่เห็นจากภายนอก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการออกแบบดีไซน์เรียบหรู ไร้รอยต่อ ดูโมเดิร์นและเนี๊ยบ เหมาะอย่างยิ่งกับบ้านสมัยใหม่ ออฟฟิศ หรือพื้นที่ที่ต้องการภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

จุดเด่นของบานพับซ่อน: 

  • เพิ่มความสวยงามด้วยการซ่อนบานพับทั้งหมด
  • แข็งแรง ทนทาน และปลอดภัย เพราะไม่สามารถถอดออกจากด้านนอกได้ง่าย
  • ลดโอกาสเกิดการสะสมของฝุ่นในร่องบานพับ

ข้อควรพิจารณา:

  • ขั้นตอนการติดตั้งซับซ้อนกว่าบานพับทั่วไป จำเป็นต้องใช้ช่างที่มีประสบการณ์
  • ราคาสูงกว่าบานพับมาตรฐานเล็กน้อย

2. บานพับสปริง (Spring Hinge)

บานพับสปริง

บานพับชนิดนี้มีสปริงติดตั้งอยู่ภายใน ช่วยให้ ประตูปิดเองอัตโนมัติ เหมาะกับประตูที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัย เช่น ประตูทางเข้าโรงแรม ประตูห้องน้ำสาธารณะ หรือประตูสำนักงานที่ต้องการป้องกันการลืมปิด

จุดเด่นของบานพับสปริง: 

  • ปิดเองได้โดยไม่ต้องใช้แรงคน
  • รักษาความเป็นส่วนตัวและลดเสียงรบกวน
  • เหมาะกับพื้นที่ที่มีการเข้า–ออกบ่อย

ข้อควรพิจารณา:

  • แรงสปริงต้องเหมาะสมกับน้ำหนักประตู หากแรงมากเกินไปอาจทำให้ปิดแรงและเกิดความเสียหายได้
  • ต้องมีการปรับตั้งค่าอย่างถูกต้องเพื่อให้การปิดประตูราบรื่น

3. บานพับผีเสื้อ (Butterfly Hinge)

บานพับผีเสื้อมีลักษณะปีกโค้งคล้ายผีเสื้อ นิยมใช้กับเฟอร์นิเจอร์หรือประตูน้ำหนักเบา เช่น ตู้ไม้ โต๊ะ หรือหน้าต่างไม้แบบวินเทจ

จุดเด่นของบานพับผีเสื้อ: 

  • ดีไซน์สวยงาม ดูคลาสสิกและมีกลิ่นอายวินเทจ
  • ติดตั้งง่ายและราคาประหยัด
  • เหมาะสำหรับงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์

ข้อควรพิจารณา:

  • ไม่เหมาะกับประตูใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก เพราะรับแรงได้จำกัด
  • หากใช้งานภายนอกควรเลือกวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อน

4. บานพับสแตนเลส / บานพับเหล็ก

บานพับสแตนเลส

บานพับสแตนเลสมีความทนทานต่อสนิมและการกัดกร่อน เหมาะกับการใช้งานทั้งภายนอกและในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือบริเวณที่ต้องเจอฝนตก บานพับเหล็กจะมีราคาถูกกว่าแต่เสี่ยงต่อการเป็นสนิมหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การเลือกใช้บานพับประเภทนี้จึงขึ้นอยู่กับงบประมาณและสภาพแวดล้อม

จุดเด่นของบานพับสแตนเลส: 

  • ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
  • ไม่เป็นสนิมง่าย แม้อยู่ในสภาพอากาศชื้น
  • ราคาประหยัด
  • แข็งแรงทนแรงกระแทกได้ดี

ข้อควรพิจารณา:

  • เลือกวัสดุให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน
  • หากเป็นเหล็กควรทาน้ำมันหรือเคลือบกันสนิมอย่างสม่ำเสมอ

มองหาบานพับประตูที่ได้คุณภาพ ไว้วางใจให้ Pan Union ช่วยดูแล มีบานพับประตูและอุปกรณ์แต่งบ้านหลายรายการ สนใจสินค้า ติดต่อเรา

วิธีเลือกบานพับประตูให้เหมาะสม

การเลือกบานพับประตูไม่ใช่แค่ดูที่ราคาหรือความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน เพื่อให้ประตูใช้งานได้ราบรื่น ทนทาน และเข้ากับสไตล์ของบ้าน โดยมีหลักสำคัญดังนี้

1. ขนาดและน้ำหนักประตู

จุดเริ่มต้นของการเลือกบานพับคือการรู้ขนาดและน้ำหนักของประตู เพราะบานพับที่ไม่เหมาะกับน้ำหนักอาจทำให้ประตูหย่อน เสียรูป หรือใช้งานได้ไม่นาน

  • น้ำหนักมาก เช่น ประตูไม้เนื้อแข็ง ประตูเหล็ก หรือประตูบานใหญ่ ควรเลือก บานพับสแตนเลสเกรดสูง หรือ บานพับสปริง ที่รองรับแรงกดและน้ำหนักได้ดี
  • น้ำหนักเบา เช่น ประตูไม้เนื้ออ่อน หรือประตูห้องภายในบ้านทั่วไป สามารถใช้บานพับมาตรฐาน เช่น บานพับเหล็กชุบหรือทองเหลือง

เคล็ดลับ: ประตูหนักควรติดบานพับอย่างน้อย 3 จุด เพื่อกระจายน้ำหนักและป้องกันการหย่อน

2. วัสดุของประตู

วัสดุของประตูมีผลต่อการเลือกชนิดและโครงสร้างของบานพับ เพราะวัสดุแต่ละแบบมีลักษณะการยึดและรองรับน้ำหนักแตกต่างกัน

  • ประตูไม้ เหมาะกับบานพับเหล็กชุบโครเมียมหรือทองเหลือง ที่ยึดเข้ากับเนื้อไม้ได้แน่น
  • ประตูโลหะ ต้องใช้บานพับที่ออกแบบให้ยึดหรือเชื่อมกับโลหะได้แข็งแรง
  • ประตูกระจก ใช้บานพับแก้ว (Glass Hinge) ที่รองรับแรงและน้ำหนักได้โดยไม่ทำให้กระจกแตก

เคล็ดลับ: เลือกมือจับให้เข้ากับวัสดุและสไตล์ของประตู เพื่อความลงตัวทั้งการใช้งานและความสวยงาม

อ่านบทความที่น่าสนใจ : คู่มือเลือกใช้วัสดุไม้ตกแต่งบ้าน

3. สภาพแวดล้อมและตำแหน่งการติดตั้ง

สภาพแวดล้อมรอบตัวประตูมีผลต่อการสึกหรอและความทนทานของบานพับ หากเลือกไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดสนิมหรือเสียหายเร็ว

  • ประตูภายนอก ควรใช้บานพับที่ ทนสนิม เช่น บานพับสแตนเลส เพื่อรับมือกับฝน แดด และฝุ่น
  • พื้นที่ความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือบ้านใกล้ทะเล เลือกบานพับที่เคลือบสารกันสนิมหรือทำจากวัสดุไม่กัดกร่อน เพื่อยืดอายุการใช้งาน

4. ความสวยงามและสไตล์การตกแต่ง

บานพับเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์บ้าน แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ถ้าเลือกให้เข้ากับสไตล์ก็ช่วยเสริมบรรยากาศโดยรวมได้มาก

  • บ้านสไตล์วินเทจ เหมาะกับบานพับผีเสื้อ (Butterfly Hinge) ที่มีลวดลายสวยงาม
  • บ้านสไตล์โมเดิร์น เหมาะกับบานพับซ่อน (Concealed Hinge) ที่ให้ความเรียบและซ่อนตัว
  • บ้านสไตล์คลาสสิก เลือกบานพับทองเหลืองหรือแบบที่มีลวดลายประณีตเพื่อเพิ่มความหรูหรา

การเลือกบานพับประตูที่ดีควรคำนึงถึงทั้ง ความแข็งแรง ความเข้ากับวัสดุ ความทนต่อสภาพแวดล้อม และความสวยงาม เพื่อให้ได้ทั้งประสิทธิภาพการใช้งานและความกลมกลืนกับดีไซน์บ้านในระยะยาว

ติดตั้งบานพับที่ประตูต้องใช้จำนวนเท่าไหร่

ตารางเปรียบเทียบชนิดบานพับ

ก่อนตัดสินใจเลือกบานพับประตู การรู้จักชนิดของบานพับต่าง ๆ พร้อมข้อดี–ข้อเสีย และประเภทประตูที่เหมาะสม จะช่วยให้เลือกได้ตรงความต้องการมากขึ้น ตารางต่อไปนี้สรุปข้อมูลสำคัญของบานพับแต่ละประเภท เพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ชนิดบานพับ ข้อดี ข้อที่ควรพิจารณา ประเภทประตู
บานพับซ่อน (Concealed Hinge) – ซ่อนตัว ไม่เห็นจากภายนอก

– ให้ความเรียบหรู ทันสมัย

– ติดตั้งซับซ้อน

– ราคาสูง

ประตูบานเปิดในบ้านสไตล์โมเดิร์น ตู้เฟอร์นิเจอร์
บานพับสปริง (Spring Hinge) –  มีสปริงช่วยปิดประตูอัตโนมัติ

– ลดแรงกระแทกขณะปิด

– ราคาสูงกว่าแบบมาตรฐาน

– ต้องปรับแรงสปริงเป็นระยะ

ประตูที่ต้องการปิดเอง เช่น ประตูห้องน้ำสาธารณะ ประตูสำนักงาน
บานพับผีเสื้อ (Butterfly Hinge) – ดีไซน์สวย เหมาะกับงานตกแต่ง

– ติดตั้งง่าย

– รับน้ำหนักได้ไม่มาก

– ไม่เหมาะกับประตูภายนอก

ประตูตู้ ประตูห้องภายในบ้าน หรือประตูบ้านสไตล์วินเทจ
บานพับสแตนเลส (Stainless Steel Hinge) – ทนสนิมสูง แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก

– อายุการใช้งานยาวนาน

– ราคาสูงกว่าบานพับเหล็กทั่วไป ประตูภายนอก ประตูเหล็ก ประตูไม้เนื้อแข็ง หรือประตูบ้านที่อยู่ใกล้ทะเล

การติดตั้งและจำนวนบานพับที่เหมาะสม

การติดตั้งบานพับประตูอย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยให้ประตูเปิด–ปิดได้ราบรื่น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหาบานหย่อน เสียงดัง หรือการสึกหรอที่เกิดจากแรงกดไม่สมดุล การเลือกจำนวนและตำแหน่งบานพับที่เหมาะสมจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

1. จำนวนบานพับที่ควรใช้

จำนวนบานพับที่ติดตั้งมีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและการกระจายน้ำหนักของประตู

  • ประตูทั่วไป ควรใช้บานพับอย่างน้อย 2–3 ตัวต่อบาน เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างสมดุล
  • ประตูขนาดใหญ่หรือหนักมาก เช่น ประตูไม้เนื้อแข็ง หรือประตูเหล็ก ควรเพิ่มเป็น 3 ตัวขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้บานประตูหย่อนหรือเสียรูปในระยะยาว

เพราะการกระจายน้ำหนักผ่านหลายจุดช่วยลดแรงกดที่บานพับแต่ละตัว ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

2. วางตำแหน่งบานพับให้เหมาะสม

แม้จะมีจำนวนบานพับเพียงพอ แต่ถ้าวางตำแหน่งไม่ถูกต้อง ประตูก็อาจเปิด–ปิดไม่ราบรื่นหรือเกิดเสียงดังได้

  • ตำแหน่งมาตรฐาน ติดตั้งบานพับตัวแรกบริเวณด้านบนของบานประตูห่างจากขอบบนประมาณ 15–20 ซม. และบานพับตัวล่างห่างจากขอบล่างประมาณ 25–30 ซม.
  • บานพับตัวกลาง ถ้าใช้ 3 ตัว ให้ติดบริเวณกึ่งกลางระหว่างบานพับบนและล่าง เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงและสมดุล

ข้อดีของการจัดตำแหน่งที่ถูกต้อง ช่วยให้การเปิด–ปิดสมูท ไม่มีการเสียดสีหรือเสียงดัง และลดการสึกหรอของวงกบและบานประตู

3. การขันสกรูและการตรวจสอบความแน่นหนา

การติดตั้งที่ดีต้องมั่นใจว่าบานพับยึดกับบานประตูและวงกบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

  • ขันสกรูให้แน่นทุกครั้ง ใช้สกรูคุณภาพดีและมีความยาวเหมาะสมกับวัสดุของประตู
  • ควรเช็กความแน่นของสกรูทุก 6–12 เดือน โดยเฉพาะประตูที่ใช้งานบ่อยหรือรับแรงกระแทกสูง

การป้องกันบานพับหลวมจะช่วยลดเสียงดัง “เอี๊ยด” และป้องกันความเสียหายที่อาจลามไปถึงวงกบหรือบานประตู

เคล็ดลับการบำรุงรักษาบานพับประตูให้ใช้งานได้นาน

บานพับเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเปิด–ปิดประตู หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งบานพับและประตู พร้อมป้องกันปัญหาเสียงดังหรือการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร วิธีดูแลหลัก ๆ มีดังนี้

1. หมั่นหยอดน้ำยาหล่อลื่นเป็นประจำ

การเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนโลหะของบานพับในทุกครั้งที่เปิด–ปิดประตู อาจทำให้เกิดเสียงดังและสึกหรอเร็ว การหยอดน้ำยาหล่อลื่นจะช่วยลดปัญหานี้

  • วิธีทำ: ใช้น้ำมันหล่อลื่นหรือสเปรย์ซิลิโคนฉีดลงบริเวณแกนบานพับและรอยต่อ
  • ข้อดี: ลดแรงเสียดสี ป้องกันการเกิดสนิม และช่วยให้การเปิด–ปิดเป็นไปอย่างนุ่มนวล

2. ตรวจเช็กสรูที่ยึดบานพับประตู

สกรูที่หลวมอาจทำให้บานพับเอียง ส่งผลให้ประตูปิดไม่สนิทหรือเสียดสีกับวงกบ จนบานพับสึกหรอเร็ว

  • วิธีทำ: ใช้ไขควงขันสกรูให้แน่น ตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือเมื่อรู้สึกว่าประตูโยกเยก
  • ข้อดี: ช่วยรักษาตำแหน่งบานพับให้มั่นคง ป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้างประตู

3. บานพับเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนทันที

บานพับที่เริ่มมีเสียงดัง ฝืด หรือเปิด–ปิดไม่ราบรื่น แสดงว่ามีการสึกหรอหรือเกิดสนิม หากไม่เปลี่ยนทันเวลา อาจทำให้ประตูเสียหายตามไปด้วย

  • วิธีทำ: เลือกบานพับใหม่ที่มีขนาดและวัสดุเหมือนหรือดีกว่าของเดิม
  • ข้อดี: รักษาสภาพการใช้งานของประตู ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความสวยงามให้เหมือนใหม่

การบำรุงรักษาบานพับเป็นเรื่องง่ายแต่สำคัญ เพียงหยอดน้ำยาหล่อลื่นสม่ำเสมอ ตรวจเช็กสกรู และเปลี่ยนบานพับที่เสื่อมสภาพ ก็ช่วยให้ประตูเปิด–ปิดได้อย่างราบรื่น ทนทาน และใช้งานได้ยาวนาน

เลือกบานพับจาก Pan Union  คุณภาพดี ทนทาน สวยครบในชิ้นเดียว

แม้บานพับจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของประตู แต่ก็มีผลอย่างมากต่อความแข็งแรง ความสวยงาม และอายุการใช้งานของทั้งบานประตู การเลือกบานพับที่มีคุณภาพจึงเป็นการลงทุนเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว Pan Union คัดสรรบานพับเกรดพรีเมียม ดีไซน์หลากหลาย เหมาะกับทุกสไตล์บ้าน ทนต่อการใช้งานจริง และรองรับสภาพแวดล้อมได้อย่างดี พร้อมบริการให้คำแนะนำจากทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยคุณเลือกบานพับที่ลงตัวกับงบประมาณและความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความสวยงาม ความแข็งแรง หรือความมั่นใจในทุกการใช้งาน คุณสามารถเลือกชมบานพับประตูและสินค้าคุณภาพอื่น ๆ ได้ที่ Pan Union ครบจบในที่เดียว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบานพับประตู

เพื่อช่วยให้การเลือกและใช้งานบานพับประตูเป็นเรื่องง่ายขึ้น เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิตพร้อมคำตอบแบบละเอียด เพื่อคลายข้อสงสัยและช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

Q: บานพับประตูมีกี่ประเภท?

A: บานพับประตูมีหลายประเภท แต่ละแบบถูกออกแบบมาให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น

  • บานพับสแตนเลส แข็งแรง ทนสนิม เหมาะกับพื้นที่ชื้น
  • บานพับซ่อน ซ่อนตัวในโครงสร้างประตู ให้ดีไซน์เรียบหรู
  • บานพับสปริง มีระบบสปริงช่วยปิดประตูอัตโนมัติ
  • บานพับผีเสื้อ ดีไซน์สวย เหมาะกับประตูตกแต่งภายใน

Q: ควรเลือกบานพับประตูแบบไหนดี?

A: การเลือกบานพับควรพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 อย่าง ได้แก่

  1. วัสดุประตู – ไม้ โลหะ หรือกระจก
  2. น้ำหนักและขนาดของบานประตู – ประตูหนักต้องใช้บานพับแข็งแรงเป็นพิเศษ
  3. ตำแหน่งการใช้งาน – ภายในหรือภายนอกบ้าน และสภาพแวดล้อม เช่น มีความชื้นสูงหรือไม่

Q: บานพับสแตนเลสดีอย่างไร?

A: จุดเด่นของบานพับสแตนเลสคือความทนทานต่อสนิมและการกัดกร่อน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือบ้านที่อยู่ใกล้ทะเล นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก และดูแลรักษาง่าย

Q: ติดตั้งบานพับประตูต้องใช้กี่ตัว?

A: โดยทั่วไปใช้ 2-3 ตัวต่อบาน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและขนาดของประตู

  • ประตูน้ำหนักปกติ ใช้ 2 ตัวเพียงพอ
  • ประตูหนักหรือบานใหญ่ ควรใช้ 3 ตัวขึ้นไป เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักและยืดอายุการใช้งานของบานพับ

 

Share this post

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า